Tuesday, August 28, 2018

บูเช็กเทียน 7


ตลอดเวลาที่นั่งเป็นฮองเฮา...บูฮองเฮามีผลงานที่โลกต้องจารึก...

ฆ่าพี่สาวตนเอง...แต่งตั้งลูกชายสองคนเป็นรัชทายาท  เรียงลำดับกัน...แล้วก็ปลดพร้อมฆ่าเรียบทั้งสองคน...

และเมื่อถังเกาจงฮ่องเต้  เสวยบังลังก์มาได้สามสิบสี่ปี...ก็เกิดเบื่อขึ้นมากะทันหัน...ลาโลกไปในวัยห้าสิบกว่าๆ...

บูฮองเฮาในวัยไล่เลี่ยกัน...มีลูกชายสี่คน  โดนฮองเฮาส่งไปศึกษาต่อต่างชาติแล้วสอง...ก็เลยต้องตั้งคนที่สามเป็นฮ่องเต้แทน...

มีพระนามว่า  ถังจงจงฮ่องเต้...ส่วนบูฮองเฮา ก็เลื่อนตำแหน่งเป็นบูไทเฮา...คือแม่ฮ่องเต้

ถังจงจงเป็นฮ่องเต้ได้ไม่นาน...ถึงเวลาที่ต้องตั้งเสนาบดีสำคัญ  ถังจงจงถือว่าตนเองก็โตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแล้ว  ก็ดำเนินการแต่งตั้งเอง...

ขุนนางต่างๆที่รู้ทางลม  ก็พยายามทัดทาน...เอ้อ  พระองค์ทำอะไรไม่ปรึกษาหม่ามี๊ก่อน  เดี๋ยวได้เป็นเรื่องหรอกพะย่ะค่ะ...

“เฮ้ย  กูฮ่องเต้เฟ้ย...ปีกกล้าขาแข็ง  กองหลังแน่นปึ้ก  ไทฮงไทเฮากูไม่สน”...ก็ตั้งเสนาบดีตามความเห็นของตนเอง

บูไทเฮาทราบเรื่อง  ถึงกับปรี๊ดแตก...เรียกประชุมเสนาบดีทันที...

อาศัยตำแหน่งไทเฮา  ผู้ทรงอิทธิพลที่แท้จริง...ปลดฮ่องเต้ที่เป็นลูกตัวเองออกจากตำแหน่ง...โห  ป้าแกโคตรพาวเว่อร์ฟูลเลยว่ะ...ปลดฮ่องเต้ได้ด้วย...

ก็เลยเหลือลูกคนเดียว  คนสุดท้อง...ก็ตั้งให้เป็นฮ่องเต้  มีพระนามว่า  ถังยุ่ยจงฮ่องเต้...

ชื่อก็บอกแล้ว  ว่าไม่ได้แข็งแกร่งอะไร...ออกแนวยวบๆ ยุ่ยๆ คล้ายทิชชู่เปียกน้ำ...

บูไทเฮาก็ผงาดขึ้นเต็มตัวในเรื่องการปกครองบ้านเมือง...ส่วนทิชชู่เปียกน้ำ...ก็สำราญกับสาวๆไป  งานการไม่ต้องทำอะไร...

อย่างที่บอกไปแล้ว...ในแง่ของการปกครองบ้านเมือง  บูไทเฮาก็ถือว่ามีวิสัยทัศน์ยาวไกล  ใจกว้าง  และทำได้ดีทีเดียว...อาณาประชาราษฏร์ก็ค่อนข้างจะอยู่เย็นเป็นสุข...

นอกจากเปลี่ยนแปลงระบบหลายอย่าง  ที่ทำให้บ้านเมืองดีขึ้นแล้ว...ยังมีตัวอย่างนึงที่แสดงถึงความใจกว้างของบูไทเฮา

...

มีกบฏเกิดขึ้น...พอรวบรวมผู้คนได้หลายหมื่น  ก็มีการเขียนจดหมายปลุกระดมแชร์ต่อไปอย่างกว้างขวาง...

จดหมายปลุกระดมมาถึงมือของบูไทเฮา...เนื้อหาด่าว่านางซะไม่มีชิ้นดี...เป็นสนมชั้นต่ำมาก่อนบ้างล่ะ  เป็นผู้หญิงเผยอหน้าจะมาบริหารบ้านเมืองบ้างล่ะ...

อ่านจบ  นางถามหาทันที...”ใครเป็นคนเขียนจดหมายฉบับนี้”...

ทหารก็ขยับตัวกันพรึ่บพรั่บ  เตรียมจะไปหาไปจับตัวไอ้ต้นตอจดหมายปากจัดฉบับนี้มาเชือด...

“แม่งเขียนจดหมายโคตรเก่ง  เรียบเรียงดี  ยกเหตุยกผลมาหนักแน่น  ภาษาที่ใช้จูงใจคนอ่านได้ดี...ถ้าเจอตัว  ให้เอามาทำงานกับเรา”...

...อืม...ช็อตนี้ทำเอาไปไม่เป็นกันหมด  แต่ก็นับว่าป้าแกใจกว้างเกินผู้หญิงในสมัยนั้นจริงๆ...

บูไทเฮากุมอำนาจที่แท้จริงมาหลายสิบปี  นับตั้งแต่ฮ่องเต้องค์ก่อน...อันนี้ถ้าคิดอย่างเป็นธรรม  ก็ต้องยอมว่า  ฝีมือในการบริหารบ้านเมืองป้าแกยอดเยี่ยมกระเทียมดองจริงๆ...ถึงจะมีกบฏเกิดขึ้นหลายครั้ง  แต่ราษฎรอยู่เย็นเป็นสุขอยู่แล้ว  เค้าก็ไม่อยากให้บ้านเมืองวุ่นวาย...กบฏกี่ครั้งๆก็ไม่ได้รับการสนับสนุนนัก

จนมีกลุ่มขุนนางฝ่ายเชลียร์  เข้าชื่อกันเรียกร้องว่า...ขอให้เปลี่ยนชื่อราชวงศ์ถัง  เป็นราชวงศ์โจวซึ่งจะเป็นราชวงศ์ของแซ่บู...

แรกๆ  บูฮองเฮาก็กล้าๆกลัวๆอยู่  เพราะในอดีตไม่เคยมีหญิงคนใดตั้งตนเป็นฮ่องเต้มาก่อน...ไม่รู้แรงต้านจะมากน้อยแค่ไหน...

มาตัดสินใจได้ก็เพราะถังยุ่ยจงฮ่องเต้  แสดงความยุ่ยสมชื่อ...เอาด้วย...ลงชื่อกับเค้าด้วย...ขอให้เปลี่ยนชื่อราชวงศ์จากถัง  เป็นราชวงศ์โจว...

...แถมยังขอให้บูไทเฮา  ประทานแซ่ให้แก่ตน  เปลี่ยนจากแซ่หลี่เป็นแซ่บูด้วย...

บูไทเฮาก็เลยตัดสินใจ...สถาปนาตนเองขึ้นเป็นฮ่องเต้หญิงองค์แรกของจีน...แห่งราชวงศ์โจว

และเพราะว่า...พิธีสถาปนาฮ่องเต้  ทำขึ้นที่ประตูเมืองเช็กเทียน...

นางจึงได้พระนามว่า...บูเช็กเทียน...ขณะนั้นนางอายุ 63-64...

พรุ่งนี้มาดูตอนจบของบูเช็กเทียนกันครับ...

No comments:

Post a Comment