บูเช็กเทียน 1...
บูเช็กเทียน...ชื่อนี้เรียกว่าดังเลยล่ะ เพราะเธอสร้างประวัติศาสตร์ เป็นฮ่องเต้หญิงองค์แรกและองค์เดียวของจีน...ก็มีคนเอาเรื่องของเธอรวมทั้งคนแวดล้อม ไปสร้างเป็นนิยาย เป็นหนังมากมาย...
รวมทั้งในเนื้อประวัติศาสตร์จริง เธอก็เป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์กันสนุกสนาน...บ้างก็ว่าเธอดี เก่ง...บ้างก็ว่าเธอนี่ระดับอสูรเราดีๆนี่เอง...
...ผมหยิบประวัติเธอมาเล่า แบบอ่านง่ายเข้าใจง่าย...แล้วจะว่าเธอเป็นนางฟ้าหรือซาตาน...ก็คิดกันเอง...
...ไอ้ที่บอกไว้ว่า เป็นฮ่องเต้หญิงคนเดียวของจีน...บางคนก็อาจจะถามว่า...อ้าว ซูสีไทเฮาล่ะ...
องค์นั้นน่ะไม่ใช่ฮ่องเต้...แต่เป็นไทเฮา...คือในเวลานั้นมีฮ่องเต้อยู่ แต่ก็อยู่แต่ในนาม...คือเป็นฮ่องเต้เด็กน้อยที่ชื่อว่า ปูยี...เค้าเอามาสร้างเป็นหนัง The Last Emperor นั่นไง...โคตรดังเลย...
ปูยีวันๆก็นั่งต่อเลโก้ เล่นไอแพดไป...ซูสีไทเฮานี่แหละ ว่าราชการตัวจริง...ว่าไปว่ามาจนได้เรื่อง ราชวงศ์ชิงถึงกับล่มสลาย...ระบอบกษัตริย์ของจีนที่สืบเนื่องยาวนานมาหลายพันปี ต้องสิ้นสุดลง...
อันว่า “ไทเฮา” ก็คือแม่ฮ่องเต้...ส่วนเมียฮ่องเต้ เขาเรียกฮองเฮา...ส่วนยายหรือย่าฮ่องเต้...อันนี้ไม่รู้แฮะ...
...กลับมาที่บูเช็กเทียน...
ชื่อที่เราเรียกกันแบบนี้...เป็นสำเนียงจีนแต้จิ๋ว...ถ้าจีนกลางคือ...อู่เจ๋อเทียน...
เพราะฉะนั้น...เธอจึงแซ่อู่...แต่เราเรียกแซ่เธอด้วยชื่อที่คุ้นหูก่อนดีกว่า...แซ่บู
เด็กหญิงบูนี่ เธอเกิดในตระกูลที่พ่อเป็นขุนนางชั้นผู้น้อย แต่ก็ทำการค้าควบคู่ไปด้วย...จึงเป็นผู้น้อยที่เงินไม่น้อย...
ก็ด้วยความช่ำชองแบบพ่อค้า...พ่อของเธอจึงมีเส้นสายรู้จักผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเยอะ...โดยเฉพาะพวกทหาร...
...ไม่รู้มีการให้ยืมนาฬิการึเปล่า...
ตอนนั้นเป็นช่วงปลายราชวงศ์สุย...ช่วง
พศ.หนึ่งพันหนึ่งร้อยกว่าๆ...
ทหารใหญ่คนนึงที่พ่อของบูเช็กเทียนสนิทสนม ตั้งวงดัมมี่ด้วยบ่อยๆ...ชื่อ หลี่เอียน...
จังหวะนั้น ราชวงศ์สุยเริ่มไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ราชการบ้านเมืองก็เละเทะ...พอราชวงศ์สุยฟอนเฟะจนได้ที่...หลี่เอียนคนนี้ก็เลยรวบรวมกำลังทหาร ก่อการกบฏได้สำเร็จ...
หลี่เอียนก็ตั้งตนเองเป็นฮ่องเต้ สถาปนาราชวงศ์ที่ยิ่งใหญ่ราชวงศ์หนึ่งของจีน...ราชวงศ์ถัง...ตนเองได้เป็น ถังเกาจู่ฮ่องเต้...(ตอนพิมพ์นี่ต้องดูวรรณยุกต์ดีๆ...ไม้เอกกับไม้จัตวา ดันอยู่ปุ่มเดียวกันซะด้วย)
บูเช็กเทียนก็ถือกำเนิดในช่วงแรกของราชวงศ์ถังนี่แหละ...
ตอนเกิดมาเธอยังไม่ได้ชื่อนี้ทันที แต่ชื่อว่า บูเม่ยเหนียง...คำแปลก็ทำนองว่า สวยมากงามมากอะไรแบบนั้น...
ถึงรัชกาลที่สองของราชวงศ์ถัง...ถังไท่จงฮ่องเต้...ก็ได้มีการเชิญหมอดูระดับฉมังพอกับโหร
คมช. มาดูให้คนใหญ่คนโตในวัง...
ลุงตู่...เฮ้ย ไม่ใช่...ลุงอู่...พ่อของบูเม่ยเหนียง...ด้วยความที่เป็นทหารใหญ่ ก็เลยเชิญหมอดูท่านนั้น...ก่อนกลับช่วยแวะมาดูให้ที่บ้านข้าหน่อยเป็นไร...
หมอดูก็มาทำนายโหงวเฮ้งให้ลูกของลุงอู่ทีละคน...มีดีบ้างไม่ดีบ้าง...
พอมาถึงหนูน้อยบูเม่ยเหนียง...ซึ่งตอนนี้พอจะเดินเตาะแตะได้แล้ว...
ด้วยความที่ยังเป็นเด็กน้อย...เตี่ยกับม่าก็ให้ใส่ชุดคล้ายๆกันทั้งลูกชายลูกสาว...
หมอดูเห็นบูเม่ยเหนียงเดินเตาะแตะ ก็ถึงกับจ้องด้วยความตะลึงพร้อมจุ๊ปาก ส่ายหัวเป็นแขกอินเดียอยู่นั่นแหละ...
ลุงอู่กับเมียก็ตกใจ...เฮ้ย ลูกสาวกูคนนี้มันเสนียดจัญไรอะไรรึเปล่าวะ...
หมอดูก็เอ่ยออกมา โดยนึกว่าเป็นเด็กผู้ชาย...
“เสียดาย เสียดาย...หนูน้อยคนนี้ถ้าเป็นผู้หญิง...จะได้เป็นคนเหนือคนแน่นอน”...
No comments:
Post a Comment